บริการทำความสะอาด: ทำความสะอาดบ้าน เรื่องสำคัญที่ไม่ควรมองข้าม การทำความสะอาดแบบทั่วไป (General Cleaning) เป็นการทำความสะอาดบ้านให้เป็นระเบียบเรียบร้อยอยู่เสมอ ถือเป็นหนึ่งในปัจจัยสำคัญของการใช้ชีวิต บ้านที่สะอาด จะช่วยให้ผู้อยู่อาศัยมีสุขภาพกายและสุขภาพใจที่ดี เพราะถ้าว่ากันตามหลักความจริงแล้ว ใครๆ ก็อยากให้บ้านสะอาด มีความเป็นระเบียบ จริงไหม? จะได้สามารถหยิบจับสิ่งของต่างๆ ได้ง่ายขึ้น
ซึ่งถ้าหากปล่อยให้บ้านสกปรก ไม่เรียบร้อย จะทำให้เป็นแหล่งรวมของเชื้อโรค นำพาให้เกิดภูมิแพ้และโรคต่างๆ ตามมา รวมถึงทำให้สุขภาพจิตใจไม่สดชื่นด้วย ดังนั้นการทำความสะอาดทุกซอกทุกมุม (Deep Cleaning) ก็มักจะถูกละเลยอยู่เสมอ
การเตรียมอุปกรณ์ทำความสะอาดบ้าน และมีวิธีทำความสะอาดบ้านที่ถูกต้อง จึงนับได้ว่าเป็นสิ่งสำคัญที่จะช่วยให้การทำความสะอาดเป็นไปอย่างง่ายดายขึ้น และมีความสะดวกสบายขึ้นด้วย อีกทั้งในปัจจุบันยังมีบริการแม่บ้านแบบทำความสะอาดใหญ่ (Big Cleaning) เพื่อช่วยให้การดูแลบ้านของคุณมีความสะดวกสบาย และ โดยเฉพาะอย่างยิ่ง สำหรับผู้ที่ไม่มีเวลาทำความสะอาดบ้านก็จะช่วยลดความกังวลในเรื่องนี้ไปได้ด้วยเช่นกัน
การทำความสะอาดบ้าน สำคัญอย่างไร
หลายๆ คนอาจปล่อยปละละเลยกับการทำความสะอาดบ้าน คิดว่านานๆ ค่อยทำทีหนึ่งก็ได้ หรือถ้ารู้สึกว่าบ้านสกปรกก็ค่อยทำ กล่าวได้ว่าไม่เห็นว่าการทำความสะอาดบ้านมีความสำคัญขนาดนั้น แต่ตามหลักความจริงแล้ว การหมั่นทำความสะอาดอยู่เสมอ ส่งผลดีกว่าที่หลายๆ คนคิด
อันดับแรก คือจะส่งผลต่อสุขภาพกายอย่างชัดเจนหากหมั่นทำความสะอาดบ้านอยู่เสมอ เพราะฝุ่นที่น้อยลง จะทำให้อาการภูมิแพ้เกิดขึ้นน้อยลงตามไปด้วย และยังลดแหล่งสะสมเชื้อโรคมากมาย นอกจากนี้ยังส่งผลต่อสุขภาพจิตตามมา ทั้งลดระดับความเครียดและเพิ่มประสิทธิภาพในการทำงานมากขึ้น เพราะบ้านที่มีความสะอาด เป็นระเบียบ จะทำให้บ้านดูกว้างขึ้น มองแล้วสบายตา และหยิบจับสิ่งของต่างๆ ได้สะดวกนั่นเอง
อุปกรณ์ทำความสะอาดบ้าน วิธีใช้ การเก็บรักษา
อุปกรณ์การทำความสะอาดบ้านที่ดี และถูกจุดประสงค์ จะช่วยให้การทำความสะอาดบ้านมีประสิทธิภาพและมีความรวดเร็วมากขึ้น ซึ่งอุปกรณ์ที่จัดว่ามีความสำคัญ และควรมีติดบ้านไว้ มีดังนี้
– ไม้กวาด ในปัจจุบันมีวัสดุที่ใช้ในการผลิตไม้กวาดที่ค่อนข้างหลากหลาย ทั้งดอกหญ้า พลาสติก ไนลอน และยางพารา
วิธีใช้: ใช้กวาดฝุ่นผงที่อยู่ตามพื้นที่แห้งและเรียบ
การเก็บรักษา: หงายด้านที่ใช้กวาดขึ้น และวางด้านที่เป็นด้ามจับลงกับพื้น พิงไว้กับผนัง และควรตากแดดให้แห้งหากเปียกชื้น
– ที่โกยขยะ มีด้ามจับที่ค่อนข้างยาว ผลิตจากพลาสติก หรือสังกะสี ซึ่งที่โกยผงที่ดี ควรมีบริเวณที่ราบรับกับพื้นได้เรียบสนิท เพื่อให้สามารถโกยฝุ่นผงเข้าไปได้ง่าย
วิธีใช้: ใช้ในการเก็บฝุ่นผงจากการทำความสะอาด ก่อนนำไปทิ้งที่ถังขยะ
การเก็บรักษา: สำหรับวัสดุที่เป็นพลาสติก ควรล้างให้สะอาดก่อนผึ่งให้แห้ง แต่ถ้าหากวัสดุเป็นสังกะสี ควรเช็ดเพื่อทำความสะอาด ไม่ควรโดนน้ำเพราะจะทำให้เป็นสนิมได้ง่าย
– ไม้ถูพื้น วัสดุที่ใช้จะทำจากผ้าหรือฟองน้ำ เพื่อให้สามารถกักเก็บน้ำได้
วิธีใช้: ใช้ถูในบริเวณกว้าง เพื่อให้พื้นมีความสะอาดมากขึ้น
การเก็บรักษา: ควรซักผ้าที่ใช้ถูให้สะอาด และตากให้แห้งเสมอ เพื่อป้องกันเชื้อรา
– ผ้าเช็ดทำความสะอาด ควรเลือกใช้ผ้าที่สามารถซับน้ำได้ดี อาจใช้เป็นผ้าเก่า ผ้าขนหนู หรือผ้าไมโครไฟเบอร์ก็ได้เช่นกัน
วิธีใช้: ใช้เช็ดทำความสะอาดตามข้าวของเครื่องใช้ต่างๆ และเช็ดตามซอกมุมต่างๆ ภายในบ้าน
การเก็บรักษา: ควรซักผ้าให้สะอาด และตากให้แห้งเสมอ เพื่อป้องกันเชื้อรา
ขั้นตอนและวิธีทำความสะอาดบ้าน
1. วางแผนทำความสะอาดบ้าน ทีละขั้นตอน
ควรเริ่มทำความสะอาดจากบริเวณที่สูงก่อน แล้วไล่ลงมาที่ต่ำ เพราะฝุ่นผงจากบริเวณที่สูงกว่าจะปลิวลงมาโดนตรงบริเวณชั้นที่อยู่ต่ำกว่า หากเป็นภายในบริเวณห้อง ควรเช็ดทำความสะอาดตามฝ้า กำแพง หรือบนโต๊ะก่อน จากนั้นจึงค่อยทำความสะอาดพื้น และไล่บริเวณลงมาตามชั้นที่อยู่ต่ำกว่าตามลำดับ
สำหรับบ้านที่มีมุ้งลวด ควรถอดออกมาล้างน้ำให้สะอาด และนำไปตากแดดให้แห้ง ก่อนนำมาติดตั้งใหม่
2. เตรียมอุปกรณ์ทำความสะอาดบ้าน ให้พร้อม
เตรียมอุปกรณ์ที่ใช้ทำความสะอาดบ้านให้พร้อม และถูกวัตถุประสงค์ เพื่อให้การทำความสะอาดเป็นไปอย่างรวดเร็วและง่ายดายมากขึ้น
3. เคลียร์พื้นที่ จัดของให้เป็นระเบียบ
แบ่งพื้นที่ในการเริ่มต้นทำความสะอาด และเริ่มทำทีละบริเวณ เพื่อให้การทำความสะอาดสามารถแบ่งออกเป็นขั้นตอนได้ และทำได้ง่ายขึ้น รวมถึงการซื้อชั้นวางของจะช่วยให้การจัดแบ่งประเภทของสิ่งของต่างๆ เป็นระเบียบ และทำให้พื้นที่ในห้องกว้างขวางขึ้น เช่น
กำจัดของเก่าในตู้เย็น เพื่อเคลียร์ของที่ไม่ทานแล้ว หรือหมดอายุแล้วออก ทำให้มีพื้นที่เก็บอาหารในตู้เย็นมากขึ้น
จัดวางรองเท้าบนชั้น หรือเก็บเข้าตู้รองเท้า เพื่อให้บริเวณด้านนอกมีความเป็นระเบียบ ไม่มีของวางเกะกะหรือกระจัดกระจายตามพื้น
4. กำจัดฝุ่นตามจุดต่างๆ
เริ่มเช็ดทำความสะอาดฝุ่นตามเฟอร์นิเจอร์ต่างๆ ที่อยู่ที่สูง และตามบริเวณซอก เพื่อให้เศษฝุ่นผงปลิวลงมาที่พื้น และใช้ไม้กวาดเก็บกวาดตามบริเวณพื้นอีกทีหนึ่ง หรืออาจใช้เครื่องดูดฝุ่นช่วยดูดตามบริเวณซอกต่างๆ ก็ได้เช่นกัน
5. นำมุ้งลวด ผ้าม่าน พรม ออกมาทำความสะอาด
– สำหรับบ้านที่มีมุ้งลวด ควรถอดมุ้งลวดออกมาล้าง และตากแดดให้แห้งก่อนนำกลับไปติดตั้งเสมอ
– ควรถอดม่านออกมาซักเป็นระยะ ตากแดดให้แห้ง ก่อนนำกลับมาติดตั้งใหม่ หรือถ้าหากไม่สามารถซักม่านได้ ควรใช้เครื่องดูดฝุ่นดูดตามม่านเป็นระยะ เพราะม่านเป็นแหล่งสะสมฝุ่นที่ค่อนข้างเยอะพอสมควร
– หมั่นดูดฝุ่นพรมเช็ดเท้าอยู่เสมอ ก่อนนำไปตากแดดเพื่อฆ่าเชื้อโรค
6. เช็ดเตาแก๊ส ครัว ให้สะอาด ไร้คราบและกลิ่น
ควรเช็ดทำความสะอาดหลังใช้งานทุกครั้ง เพราะบริเวณห้องครัวเป็นแหล่งรวมเชื้อโรคได้ง่ายหากปล่อยคราบสกปรกจากการทำอาหารต่างๆ ทิ้งไว้โดยไม่ทำความสะอาด
7. ทำความสะอาดพื้น ผนัง ให้แห้งสะอาด
เช็ดพื้นห้องน้ำให้แห้ง ไม่ให้มีคราบสบู่ แชมพู เพราะอาจทำให้ลื่นได้
เช็ดคราบบนกำแพงและกระจกอยู่เสมอ เพราะคราบน้ำที่ปล่อยให้สั่งสมเป็นเวลานาน จะทำให้เกิดเป็นคราบหินปูนได้
8. เคลียร์ท่อน้ำต่างๆ ไม่ให้อุดตัน
หมั่นเก็บเศษผมไปทิ้งอยู่เสมอ เพราะเศษผมบางส่วนอาจหล่นลงไปในท่อ และทำให้ท่ออุดตันได้
9. เช็คความผิดปกติของสภาพบ้านด้วย
หมั่นตรวจสอบตามบริเวณซอก หรือบริเวณที่เป็นไม้ภายในบ้าน เพื่อดูว่ามีปลวกหรือไม่ และหมั่นสังเกตบริเวณต่างๆ ภายในบ้านเป็นระยะ เผื่อมีร่องรอยของการเสื่อมสภาพของตัวบ้าน จะได้สามารถแก้ไขปัญหาได้ทันท่วงที ก่อนที่จะเกิดเป็นปัญหาใหญ่